สำหรับชีวิตที่ผ่านมา นอกจากการได้มีโอกาสทำงานเพื่อช่วยเหลือคนรอบข้าง หรือเพื่อนมนุษย์ที่มีความทุกข์แล้ว ผมยังมีโอกาสที่ได้ร่วมงาน ที่นับได้ว่าเป็นเกียรติประวัติของชีวิตและวงศ์ตระกูลอย่างมาก หลายต่อหลายเรื่อง แน่นอนสิ่งเหล่านี้สำหรับบางท่าน อาจจะมองไม่เห็นคุณค่า หรือว่าราคามากมายอะไร แต่สำหรับผม ทุกอย่างที่มีโอกาสคิดดี และทำดี เพื่อส่วนรวม ล้วนเป็นสิ่งที่ผมถือว่า เป็นสิ่งที่ล้ำค่าในชีวิตเสมอ และนับว่าตนเองมีวาสนาที่ได้ทำหรือมีส่วนผลักดัน สร้างสรรค์งานของแผ่นดินเหล่านั้นให้กับสังคมและประเทศชาติ
ร่วมชื่นชมกับการรวมพลคนดีของแผ่นดิน จัดทำเพลงทนายของแผ่นดิน มอบเป็นเพลงประจำสถาบันอัยการสูงสุด
อัยการมีภาระหน้าที่ และต้องรับผิดชอบทำงานเพื่อถวายแผ่นดิน ในบทบาทของทนายแผ่นดินที่ต้องรักษาผลประโยชน์ทั้งของรัฐและประชาชน นอกจากนั้นก็จะมีบทบาทหน้าที่ ช่วยเหลือปกป้องคนดีของสังคม ให้พ้นจากการตกเป็นตราบาปของสังคมในกระบวนการยุติธรรมของสังคมไทย ที่กฎหมายให้โอกาสผู้กล่าวหา เป็นผู้ถือแต้มเหนือกว่า ผู้ถูกกล่าวหาเสมอ...
ทั้งการทำงานเบื้องหน้าในหน้าที่โดยตรง ที่ต้องมีความเที่ยงตรงและเที่ยงธรรม รักษาความเป็นธรรมให้สังคมและประเทศชาติ ปกป้องปวงราษฎร์ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และการทำงานเสมือนปิดทองหลังพระปฏิมาของท่านอัยการเหล่านี้ อีกมากมายที่ธำรงไว้แห่งความรักษาความยุติธรรมให้ประชาราษฎร์ของแผ่นดิน
ราวเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา...ผมมีโอกาสได้สัมผัสกับชีวิตอัยการ และผู้ที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสนั้นมีตำแหน่งเป็นถึงอัยการสูงสุด ใช่ครับ..ผมกำลังกล่าวถึง คุณพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด คนปัจจุบันนั้นแหละครับ
ผมอยากรู้ถึงหน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้เป็นอัยการ แล้วผมก็ได้รับความกระจ่างทันทีจากท่าน นอกจากนั้น ทำให้ผมพลันระลึกน้อมสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯและสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ผู้เคยรั้งตำแหน่ง อัยการของแผ่นดินในสมัยอยุธยา เรียกขานนามกันว่า ยกบัตรเมืองราชบุรี และยกบัตรเมืองตาก ตามลำดับ
ในสมัยก่อนผู้ทำหน้าที่ดูแล และปกครอง รักษาความเป็นธรรมให้ประชาราษฎรในแต่ละหัวเมือง จะได้รับความไว้วางพระทัยจากพระมหากษัตริย์ โปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งเป็น ยกบัตรเมืองนั้นๆ เพื่อทำหน้าที่ คอยดูแลและรักษาความเป็นธรรม และเที่ยงธรรมให้ปวงราษฎร์
ความสำคัญของหน้าที่และตำแหน่งของอัยการนั้นมีบทบาทมากต่อประเทศชาติ และแผ่นดิน ที่สำคัญหากแผ่นดินจะสงบและร่มเย็นได้นั้น ต้องกล่าวอย่างมิเกินเลยไปเลยว่า ต้องมีวาสนาที่จะได้อัยการที่มีจิตใจ คิดดี ทำดี และรักษาความเป็นธรรม อย่างเที่ยงตรงให้แผ่นดิน
จากความประทับใจที่ผมได้พบกับท่าน และหลังจากนั้น ผมก็ได้เล่าเรื่องราวของความประทับใจที่ผมสัมผัสกับคำว่าอัยการ ทนายของแผ่นดิน ให้กับคุณประภาส ชลศรานนท์รับรู้ ดูเหมือนว่าคุณประภาส ชลศรานนท์ ซึ่งท่านคนนี้ก็เป็นคน คนหนึ่งที่สานสร้างงานให้แผ่นดินมามากต่อมากและแทบจะนับไม่ถ้วนแล้วเช่นกัน บางงานก็อาจจะเป็นที่รู้จักกันทั่วถ้วนในสังคม บางงานก็อาจจะเป็นที่รู้จักในสังคมเล็กๆ โดยเฉพาะสังคมที่มีรสนิยมและความรักซาบซึ้งเหมือนกัน
ต่อมาผมก็มีโอกาสสานให้ผู้เป็นที่รักทั้งสองฝ่ายได้พบกัน และอีกท่านหนึ่งที่มีจิตใจกุศลมาก และพร้อมจะสนับสนุน และอนุโมทนากุศลด้วยเสมอ ก็คือ คุณปัญญา นิรันดร์กุล เราทั้งสี่คน จึงร่วมเป็นพลังแรงใจ ผลักดันให้เกิดการแต่งเพลง ทนายแผ่นดิน อันเป็นเพลงที่มีความไพเราะมีพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ในศักดิ์ศรี เกียรติยศของอัยการทุกคนทั่วประเทศ ที่เป็นอัยการของแผ่นดิน หรือทนายของแผ่นดิน
การร้อยเรียงประพันธ์เนื้อร้อง และสอดสานกับการแต่งทำนองที่งดงามและมีมนต์ขลัง ของคุณสุรชัย บุญแต่ง คนทำเพลงคู่ใจของคุณประภาส ชลศรานนท์ ทำให้เพลงทนายแผ่นดิน มีความยิ่งใหญ่ และไพเราะ ที่สำคัญมีความเป็นสิริมงคลอย่างใหญ่หลวงต่อผู้ที่ร่วมสานพลังสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อถวายให้แผ่นดิน นั้นก็คือได้นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในปีมหาปิติครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ปี และถือในโอกาสมหามงคลนี้ เชิญเพลงทนายแผ่นดินนี้ เป็นเพลงประจำสถาบันอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดสืบต่อไป
๒๗ กรกฎาคมที่ผ่านมา เวลาราวบ่ายสี่โมงเย็นโดยประมาณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออกแทนพระองค์ เพื่อรับการถวายรายงานและการทูลเกล้าฯถวายดีวีดีเพลงทนายแผ่นดิน เพื่อความเป็นสิริมงคล และจะเชิญเพลงทนายของแผ่นดินนี้ ไปเป็นเพลงประจำอัยการทั่วประเทศ เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณและศักดิ์ศรี ภารกิจของอัยการ ให้ประชาชน ทราบกันทั่วประเทศ
เพลงทนายของแผ่นดิน จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ตกเป็นสมบัติของแผ่นดิน ท่ามกลางความปิติและชื่นใจของทุกคน รวมกระทั่งตัวผมด้วยคนหนึ่ง ในฐานะที่มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ถึงไม่มากและยิ่งใหญ่เท่ากับท่านอัยการสูงสุด และอัยการทุกท่าน หรือเทียบเท่ากับ คุณประภาส ชลศรานนท์ ก็ตาม แต่มันก็อิ่มเอิบสุขใจ ที่ได้ใช้เวลาอย่างมีค่าสำหรับการตอบแทนพระคุณแผ่นดินของตัวเอง

ร่วมกำเนิดตำนานเพลง แก้วกัลยา เพลงจากน้ำพระทัยของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ในระยะเดือนพฤษภาคมนั้นเช่นกัน ที่ผมได้มีโอกาส ผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์ เพลงเพื่อทูลเกล้าฯถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยขอเชิญพระนามของดอกไม้ที่พระองค์พระราชทานให้เป็น ดอกไม้สัญลักษณ์คนพิการทั่วประเทศว่า ดอกแก้วกัลยา มาเป็นบทเพลงแห่งน้ำพระทัยของพระองค์ ที่ทรงมีอย่างเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาและพระกรุณาธิคุณต่อคนพิการ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเมื่อสองปีทีผ่านมา ทรงพระราชทานนามดอกไม้ว่า ดอกแก้วกัลยาให้คนพิการมาผลิต เพื่อมีอาชีพ มีงาน และมีศักดิ์ศรี ดำรงตนอยู่อย่างช่วยตัวเองได้ในสังคม
สำหรับในโอกาสปีมหามงคลปีนี้ ผมจึงขอให้คุณประภาส ชลศรานนท์ หรือคุณจิก ช่วยแต่งเพลง แก้วกัลยา ทูลเกล้าฯถวายในวโรกาสจะเจริญพระชนมายุครบ ๗ รอบในวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๐ นี้
แก้วกัลยา มีคุณค่าเหนือจิตใจ
คือดอกไม้จากความรัก และการแบ่งปัน
องค์พระพี่นาง พระราชทานเป็นมิ่งขวัญ
ให้ผองคนพิการไทยทั้งมวล.........
และนี้คืองานที่สองที่ผม มีโอกาสได้ทุ่มเท และสานพลังให้คนที่มีจิตใจบุญมีทานมหากุศล ได้ร่วมกันจัดทำเพื่อตกเป็นมรดกสมบัติของแผ่นดิน ที่สำคัญเป็นเพลงที่ทูลเกล้าฯถวายสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้ทรงพระคุณแก่ปวงพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ
และแน่นอน..สำหรับผม ก็มีความอิ่มเอิบใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างบุญ และทดแทนคุณแผ่นดินในครั้งนี้เช่นกัน....เห็นไหมครับ...ผมไม่เคยปล่อยให้เวลา...ไหลผ่านไปอย่างไร้ค่าเลย..ซักวินาทีเดียว |